ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง
๑.๑ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง
๑.๑.๑ ความหมายของการเมือง
คำว่า ”การเมือง” มีผู้รู้ให้คำจำกัดความไว้มากมาย ในความหมายมากมายเหล่านี้จะพบว่าทุกความหมายมีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ การเมืองจะต้องมีลักษณะที่เป็นกิจกรรมหรือเป็นกระบวนการ ดังจะยกตัวอย่างของคำว่าการเมือง พอเป็นสังเขปดังนี้
การเมือง (Politics) มาจากรากศัพท์ภาษากรีก หมายถึง ศิลปะในการปกครองรัฐ (๑) ในยุคแรกๆ นั้นความหมายนี้อาจสมบูรณ์เพียงพอเพราะการรวมกลุ่มในยุคนั้นเป็นการรวมกลุ่มชนขนาดเล็กๆ และกลุ่มชนนั้นยังแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายผู้ปกครองและฝ่ายที่ถูกปกครอง ซึ่งได้แก่ ประชาชนส่วนใหญ่ของรัฐ การเมืองจึงเป็นเรื่องของพันธะ หรือความสัมพันธ์ของกลุ่มบุคคลทั้งสองฝ่าย
การเมือง หมายถึง การที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคม ซึ่งอาจจะมีประโยชน์ร่วมกันหรือขัดแย้งกันหรือมีความคิดเหมือนกัน หรือมีความคิดไม่เหมือนกัน ร่วมมือกันหรือต่อสู้กันเพื่อสรรหาบุคคลไปทำหน้าที่ปกครองประเทศแทนพวกเขา และหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่จะทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจในเรื่องส่วนรวมได้โดยชอบธรรม(๒)
การเมือง หมายถึง การศึกษากลุ่มต่างๆ ที่ใช้อิทธิพลบังคับให้มีการออกกฎหมายการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาทางการปกครอง
การเมือง หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันหรือแสวงหาอำนาจซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมโดยส่วนรวม(๓)
การเมือง หมายถึง การมีและการใช้อำนาจ การมีและการใช้อิทธิพล หรือการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและอิทธิพล
การเมือง หมายถึง กิจกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย และการนำนโยบายออกปฏิบัติซึ่งจะมีผลต่อสังคมส่วนรวม ด้วยความยินยอมของสังคมนั้น(๔)
จากความหมายดังกล่าวข้างต้นผู้สอนขอสรุปความหมายของคำว่า การเมือง หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเพื่อที่จะกำหนดแนวทาง ข้อบังคับ หรือนโยบายให้คนในสังคมปฏิบัติตามและอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
๑.๑.๒ ธรรมชาติของการเมือง ( Nature of Politics )
ธรรมชาติของการเมืองโดยภาพรวมเป็นการมองการเมืองอย่างที่เป็นการเมือง ซึ่งการเมืองมีการเคลื่อนไหว มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด สำหรับเรื่องธรรมชาติของการเมือง อริสโตเติล(Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีกได้อธิบายความหมายของคำว่า ธรรมชาติของการเมืองในหนังสือว่า การเมือง (Politics) หมายถึง ชุมชนทางการเมือง โดยอริสโตเติลแสดงความคิดเห็นว่ามนุษย์ทุกคนกระทำอะไรก็เพื่อเห็นแก่สิ่งที่ตนคิดว่าดี ดังจะเห็นได้จากการรวมตัวของมนุษย์ก็มุ่งให้ผลดี ดังนั้นจุดประสงค์ของชุมชนทางการเมืองในฐานะที่เป็นชุมชนไม่ใช่เป็นแต่เพียงการรวมจุดประสงค์ของชุมชนย่อยๆ เข้าด้วยกันเฉยๆ แต่ชุมชนทางการเมืองยังต้องการที่จะให้มนุษย์ที่อยู่ร่วมกันช่วยกันให้มีชีวิตรอด และช่วยกันสนองความต้องการของมนุษย์ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยสวัสดิภาพมั่นคง ซึ่งคุณประโยชน์ร่วมกันในชีวิตที่ดีเป็นสาเหตุสำคัญในการวางรากฐานของรูปแบบการปกครอง (Ruling) โดยอริสโตเติลได้พยายามจัดรูปแบบการปกครอง ลักษณะใดเป็นรูปแบบการปกครองที่ดีและลักษณะใดเป็นรูปแบบการปกครองที่เลว อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญในรูปแบบการปกครองนั้นจะต้องประกอบด้วย อำนาจ (Authority ) ซึ่งอำนาจนี้ต้องเป็นอำนาจที่ชอบธรรมด้วย ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าลักษณะของการเมืองการปกครองในแนวคิดของอริสโตเติลจึงประกอบด้วยปัจจัยสองประการคืออำนาจกับการปกครอง(๕)
ที่มาhttp://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=1623.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น