ประเทศไทยาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน จากการศึกษาของนักประวัติศาสตร์ทำให้ทราบภูมิหลังของการตั้งถิ่นฐานในดินแดนประเทศไทยในสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งกลุ่มชนเหล่านี้ได้สร้างความเจริญต่าง ๆ บนผืนแผ่นดินไทยจนพัฒนาเป็นชุมชนเมือง และแว่นแคว้นต่าง ๆ ดังจะได้ศึกษาต่อไปนี้
การสร้างอาณาจักรของรัฐไทยในดินแดนประเทศไทยในอดีต
เมื่อมนุษย์รู้จักรวมตัวกันอยู่เป็นชุมชน มีการแบ่งหน้าที่กันในสังคม ทำให้เกิดมีผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง คนที่อยู่ในเมืองส่วนหนึ่งเป็นคนพื้นเมืองเดิม แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นคนที่อพยพมาจากเมืองอื่น เนื่องจากมีการติดต่อแลกเปลี่ยนกันทางด้านการค้าขายและวัฒนธรรมกับเมืองอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป และจากการตั้งหลักแหล่งเป็นเมือง จึงปรากฎหลักฐานว่า เมืองต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงกันมีการรวมกลุ่มพัฒนาเป็นแคว้น และอาณาจักร ตามลำดับ
1. อาณาจักรตามพรลิงค์
ตามพรลิงค์ เป็นอาณาจักรสำคัญตั้งอยู่แถบชายฝั่งทะเลในดินแดนภาคใต้ของไทย มีศูนย์กลางอยู่ที่นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ตั้งที่เหมาะในการติดต่อค้าขายกับเมืองต่าง ๆ ทั้งทางบกและทางทะเล เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 ตามพรลิงค์ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นครศรีธรรมราช และเป็นอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านพระพุทธศาสนา โดยได้ติดต่อกับลังกาและรับเอาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์มาปฏิบัติอย่างแพร่หลาย
อาณาจักรนครศรีธรรมราชมีความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ กับดินแดนทางภาคกลางและภาคเหนือ เช่น ละโว้ หริภุญชัย สุพรรณภูมิ สุโขทัย พระพุทธศาสนา จึงได้เผยแผ่ไปยังสุโขทัยและหัวเมืองอื่น ๆ
2. อาณาจักรโคตรบูร
โคตรบูร เป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่บริเวณสองฟากแม่น้ำโขง มีอาณาเขตอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และครอบคลุมไปถึงตอนกลางของประเทศลาวในปัจจุบัน คือ บริเวณตั้งแต่จังหวัดหนองคาย เวียงจันทน์ นครพนม สกลนคร ไปจนจดเขตอุบลราชธานี สันนิษฐานว่า ศูนย์กลางของอาณาจักรโคตรบูรน่าจะอยู่ที่จังหวัดนครพนม
โบราณสถานสำคัญของอาณาจักรโคตรบูร คือ พระธาตุพนม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บริเวณนี้ได้มีการยอมรับและนับถือพระพุทธศาสนาแล้ว
3. อาณาจักรทวารวดี
ทวารวดี เป็นอาณาจักรสำคัญที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในดินแดนประเทศไทย เมื่อประมาณ 1,500 ปี มาแล้ว หรือในราวพุทธศตวรรษที่ 11 - 16
จากหลักฐานที่พบ ทำให้สันนิษฐานว่าศูนย์กลางความเจริญของอาณาจักรทวารวดี น่าจะอยู่ที่บริเวณจังหวัดนครปฐม ราชบุรี หรือบริเวณอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ทวารวดีเป็นอาณาจักรที่ได้รับวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนามาจากอินเดีย ศิลปวัฒนธรรมในสมัยทวารวดีมีอิทธิพลสืบทอดต่อมาจนถึงในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นผลงานทางด้านศิลปกรรม ซึ่งเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
4. อาณาจักรละโว้
ละโว้ เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 - 19 และเคยาเป็นเมืองสำคัญของอาณาจักรทวารวดีมาก่อนจนพัฒนาเป็นอาณาจักรละโว้ และแผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมดินแดนภาคกลางตอนบน และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยบางส่วน
อาณาจักรละโว้ เป็นอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ 16 ละโว้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของขอม ทำให้ได้รับอิทธิพลจากขอม ละโว้จึงมีการผสมผสานทางวัฒนธรรม ทำให้มีศิลปะหลากหลายแบบ ทั้งแบบพระพุทธศาสนาแบบฮินดู และแบบขอม
5. อาณาจักรศรีวิชัย
เป็นอาณาจักรโบราณที่มีความเจริญรุ่งเรืองราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 18 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บางส่วนทางภาคใต้ของไทย และคาบสมุทรมลายู เกาะสุมาตรา และเกาะชวา โดยสันนิษฐานว่าศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยน่าจะอยู่ที่บริเวณอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย
และเนื่องจากอาณาจักรศรีวิชัยมีอาณาเขตติดทะเล จึงมีการติดต่อค้าขายกับเมืองอื่น ๆ และรับเอาวัฒนธรรมจากเมืองเหล่านั้นมาด้วย โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูจากอินเดีย
6. อาณาจักรหริภุญชัย
หริภุญชัย เป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของอาณาจักรสุโขทัย มีอาณาเขตอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบนและแม่น้ำวัง มีนครลำพูนหรือหริภุญชัยเป็นศูนย์กลางความเจริญ ตามตำนานกล่าว่า เริ่มก่อตั้งอาณาจักรราวพุทธศตวรรษที่ 13 จากตำนานจามเทวได้เล่าไว้ว่า พระนางจามเทวีพระราชธิดาของกษัตริย์ละโว้ (ลพบุรี) ได้เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของนครและทรงได้ขยายอำนาจของอำนาจของอาณาจักรออกไปอีก โดยสร้างเมืองเขลางค์ (ลำปาง) ขึ้นไปและโปรดเกล้า ฯ ให้พระราชโอรสองค์เล็กไปครองเมือง
อาณาจักรหริภุญชัยสิ้นสุดลง เมื่อพญามังรายผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้านนายกกองทัพมาตีเมืองหริภุญชัย ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 (ประมาณ พ.ศ. 1824 - 1836)
6. อาณาจักรล้านนา
อาณาจักรล้านนา นับเป็นอาณาจักรร่วมสมัยกับอาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่ทางเหนือของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่ทางเหนือของอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งมีอาณาเขตอยู่บริเวณที่ราบเมืองเชียงใหม่และลำพูน
พญามังรายแห่งเมืองเชียงรายเป็นกษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถ ได้รวบรวมหัวเมืองต่าง ๆ รวมทั้งอาณาจักรหริภุญชัยไว้ในอำนาจได้หมด ต่อมาใน พ.ศ. 1839 พระองค์ได้ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา
ในสมัยของพญามังราย พระองค์ได้ทรงวางรากฐานความเจริญไว้ให้กับอาณาจักรล้านนา ทำให้ล้านนาขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง และมีความเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน ทั้งด้านศิลปกรรม อักษรศาสตร์ ศาสนา โดยเฉพาะทางด้านศาสนานั้นมีความรุ่งเรืองมาก ดังจะเห็นได้จากศิลปกรรมที่สืบทอดมาถึงรุ่นหลัง เช่น การสร้างวัด พระพุทธรูป และพระเจดีย์ต่าง ๆ
ในพุทธศตวรรษที่ 22 ล้านนาเริ่มมีฐานะไม่มั่นคงนัก จนมาถึงสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไทยในสมัยของรัชกาลที่ 4 ถือเป็นการสิ้นสุดของอาณาจักรล้านนา
จาการศึกษาร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และร่องรอยหลักฐานที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า ดินแดนในประเทศไทยมีอารยธรรมและความเจริญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนในชุมชนอื่น ๆ
ที่มา http://www.trueplookpanya.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น